ReadyPlanet.com


ภาษีที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องรู้


 นอกจากจะต้องหมั่นเติมความรู้ด้านเทคโนโลยี สิ่งที่ควรสนใจและให้ความสำคัญคือ เรื่องภาษี เพราะหากละเลย อาจต้องสูญเงินเป็นจำนวนมาก อ่านต่อที่นี่ www.casaluisbarragan.com ภาษีที่เกี่ยวข้องมี 2 ประเภท คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้


1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลทั่วไปที่มีเงินได้ไม่ว่าประเภทใด ชนิดใด ถ้าไม่มีกฎหมายยกเว้นให้แล้วก็อยู่ในข่ายต้องเสียภาษี


1.1 การยื่นภาษีครึ่งปี : นำเงินได้จากการขายของออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน มายื่นแบบแสดงรายการ ...94 หากเงินได้มากกว่า 60,000 บาท สำหรับผู้ที่เป็นโสด และเกิน 120,000 บาท กรณีมีคู่สมรส (มีเงินได้ฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายรวมกัน)​ โดยยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน ในปีเดียวกัน ค่าลดหย่อนบางรายการจะถูกหักเหลือครึ่งหนึ่งด้วย เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัวจาก 30,000 บาท จะลดลงเหลือ 15,000 บาท


1.2 การยื่นภาษีปลายปี : นำเงินได้ทั้งหมดในช่วงปีที่ผ่านมาตั้งแต่ 1 มกราคม-31ธันวาคม มายื่นแบบแสดงรายการ ...90 ภายในวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม ของปีถัดไป เช่น เงินได้ปี 2566 ทั้งปี ต้องยื่นภายในมีนาคม 2567 ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องยื่นภาษี 2 ช่วงเวลา


อัตราภาษีที่ต้องจ่าย คำนวณได้จากยอดขายหรือเงินได้พึงประเมิน หักด้วยค่าใช้จ่าย และหักด้วยค่าลดหย่อน จึงออกมาเป็นเงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี ที่นำไปคำนวณภาษีตามขั้นบันได สามารถเลือกได้ว่าจะหักหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาในอัตรา 60%


หรือจะเลือกนำค่าใช้จ่ายจริงมาหักออกก็ได้ การหักค่าใช้จ่ายตามจริงต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย จัดเก็บทั้งหลักฐานต่าง ไว้ให้ครบถ้วน เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าที่มีต้นทุนของสินค้าสูง ส่วนการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมามีข้อดี คือ ไม่ต้องแสดงหลักฐานค่าใช้จ่ายแก่สรรพากร


ตัวอย่าง : คุณแอนมีรายได้จากการขายของออนไลน์ 520,000 บาท หากเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา ก็เท่ากับหักค่าใช้จ่ายออกไปได้เลย 60% หรือ 312,000 บาท โดยไม่ได้สนใจว่าแท้จริงแล้วมีค่าใช้จ่ายถึง 312,000 บาท จริงหรือไม่ เมื่อนำเงินได้หักค่าใช้จ่ายจะเหลือ 208,000 บาท หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท


และหากไม่มีค่าลดหย่อนภาษีอะไรเพิ่มเติมเลย ก็จะเหลือเงินได้สุทธิที่นำไปคำนวณอัตราภาษีแบบขั้นบันไดที่ 148,000 บาท โดยเงินได้สุทธิที่ 150,000 บาทแรกจะได้รับยกเว้นภาษี นั่นคือ คุณแอนจะไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


อย่างไรก็ตาม หากรายได้จากการขายของออนไลน์มากกว่า 1,000,000 บาทต่อปี ต้องนำรายได้มาคำนวณภาษีแบบเหมาในอัตรา 0.5% ด้วย เมื่อคำนวณแล้วให้นำภาษีที่ได้มาเทียบกับการคำนวณภาษีตามขั้นบันได (คำนวณเงินได้สุทธิ) แบบไหนเสียภาษีมากกว่าให้ใช้วิธีนั้น ซึ่งโดยมากการคำนวณภาษีแบบขั้นบันไดจะเสียภาษีสูงกว่า


2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) เป็นภาษีที่เก็บจากมูลค่าการซื้อขายหรือการให้บริการและการนำเข้าสินค้าเมื่อพ่อค้าแม่ค้ามีรายได้จากการขายหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ยอดขายเกิน และต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ให้กรมสรรพากรทุกเดือนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป รวมถึงต้องออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้าด้วย  


เมื่อขายสินค้าราคา 1,070 บาท เป็นค่าสินค้า 1,000 บาท และ VAT 70 บาท ต้องนำส่งเงินจำนวน 70 บาทนี้ที่เรียกว่าภาษีขายให้แก่สรรพากร และเงินจำนวน 1,000 บาทต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยทั่วไปพ่อค้าแม่ค้าจะมีต้นทุนหรือมีการซื้อสิ่งของสำหรับกิจการของตน เช่น หากซื้อสินค้า จำนวน 535 บาท (ค่าสินค้า 500 บาท + VAT 35 บาท) ภาษีจำนวน 35 บาท จะเรียกว่าภาษีซื้อ


พ่อค้าแม่ค้าสามารถนำ VAT ที่จ่ายไป มาหักลบกับภาษีขายได้ หากมีภาษีขายมากกว่าภาษีซื้อ ต้องนำส่งส่วนต่างนี้ ให้แก่กรมสรรพากร แต่หากภาษีขายเท่ากับหรือน้อยกว่าภาษีซื้อ แม้จะไม่มีภาระที่ต้องนำส่งภาษี blockquote{ border:1px solid #d3d3d3; padding: 5px; }

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.