"จุลพันธ์" เคลียร์ชัด เงื่อนไขดิจิทัลวอลเล็ต สินค้าและบริการอะไรที่ใช้ไม่ได้ พร้อมตอบข้อสงสัยทำไมการ "ซื้อสินค้าออนไลน์" ถึงไม่สามารถทำได้ www.sulselprov.com วันที่ 10 เมษายน 2567 ใน “NEWSROOM” รายการทอล์กคุยข่าวใหญ่ ทางไทยรัฐออนไลน์ ดำเนินรายการโดย กาย พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และฟังการวิเคราะห์จาก ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ Innovest X ในประเด็นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำแถลงข่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567 พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า มีรายละเอียดที่ปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าได้ รายละเอียดส่วนของเกณฑ์รายได้ และเงินฝากในบัญชีคงเดิม โดยใช้ฐานของสรรพากรเป็นหลัก เงื่อนไขการใช้จ่ายที่บอกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประชาชนกับร้านค้า และร้านค้ากับร้านค้า โดยนายจุลพันธ์ กล่าวว่า กำหนดระยะเวลาเป็นรายปี คือเป็นไปตามปีงบประมาณ สิ้นสุดราววันที่ 30 ก.ย. ปี 68 ส่วนร้านค้าที่สามารถเอาไปแลกเป็นเงินสด ก็ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขเดิม และยืนยันเช่นเดิมเพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการอยู่ในฐานภาษีในระยะยาว เป็นประโยชน์ต่อประเทศ

สำหรับร้านค้าขนาดเล็กเราให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้กำหนด โดยกรมการค้าภายในตรวจสอบและส่งข้อมูลมา ร้านค้าที่อยู่ในระบบฐานภาษีและเข้าโครงการกับรัฐแล้วมีจำนวนพอสมควร แต่ร้านในอีกหลายๆ ประเภทต้องใช้ความร่วมมือกันของหน่วยงาน คือกลุ่มหาบเร่แผงลอย ขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ส้มตำ กลุ่มนี้ก็จะดึงให้เขาเข้ามา เพื่อให้สามารถรับเงิน 10,000 ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในฐานะเป็นผู้ขายได้

 

สำหรับรายละเอียดร้านค้าขนาดเล็กที่เปลี่ยนไป จุดเริ่มต้นมาจากการท้วงติงของหน่วยงาน ที่กลัวว่าจะเป็นการเอื้อรายใหญ่หรือไม่ ทางแก้ก็คือกำหนดบล็อกแรกให้ประชาชนใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก ระดับร้านสะดวกซื้อลงไป ห้างสรรพสินค้าเราจะตัดออก แต่ร้านในห้างก็ยังใช้ได้ เป็นกลไกที่กำหนดขึ้นมา 

ถ้าร้านไม่เข้าสู่ระบบฐานภาษี ก็รับเงินกับดิจิทัลวอลเล็ตได้ ก็ดำเนินการซื้อปัจจัยการผลิต หรือใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อถามถึงร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ มีการกำหนดหลักเกณฑ์ไหม นายจุลพันธ์บอกว่าใช้ได้ เนื่องจากกลไกที่เราทำ มีเงินจำนวนค่อนข้างสูง จำเป็นจะต้องมีเอาต์เล็ตการใช้จ่ายที่เพียงพอ ถ้าตัวเลือกในการซื้อไม่เพียงพอ การเคลื่อนเงิน 5 แสนล้านก็อาจมีปัญหาได้ในระยะต้น

ประเด็นที่ 2 กระทรวงพาณิชย์ ได้เรียนต่อที่ประชุมซึ่งเป็นประโยชน์มาก คือ ร้านที่เป็นอากงอาม่า ปัจจุบันก็อัปเดตมาเป็นร้านสะดวกซื้อจำนวนมาก เราจะไปตัดสิทธิ์คำว่าสะดวกซื้อทั้งหมดไม่ได้ เพราะมีผู้ค้าที่เป็นเอกชนที่เป็นเจ้าของเอง ก็มีจำนวนมากเหมือนกัน เราจึงต้องคงไว้ และที่สำคัญที่สุดสินค้าในลักษณะนี้ก็มีการจ้างงาน และหมุนเวียนอยู่ แต่สิ่งที่เราทำ ยังมีช่องว่างในการหารายละเอียด และศึกษาเพิ่มเติม

สำหรับสินค้าอบายมุข หรือสินค้าออนไลน์ เป็นลิสต์ในด้านลบก่อน สลากกินแบ่งรัฐบาลก็ไม่ได้ ในเบื้องต้น เพราะมันไม่เกิดการผลิต เราพยายามที่จะเลือกไปในส่วนที่มีการผลิตการบริโภค เพื่อให้เกิดการจ้างงานหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ หรือการบริการ ร้านตัดผม ก็ไม่ได้ และมีประเด็นปัญหาที่พบในโครงการก่อนจำนวนมาก คือการใช้ผิดประเภท เพราะมันพิสูจน์ได้ยาก ว่าเกิดการให้บริการ รับบริการจริงหรือไม่

สำหรับบริการออนไลน์ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเราพยายามกำกับให้เกิดการใช้ การกระจายตัวทางเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุดในเบื้องต้น จากเคยกำหนดที่ระยะ 10 กม. ก็เปลี่ยนเป็นในเขตอำเภอ แต่ในกรณีที่ซื้อสินค้าในแพลตฟอร์ม มันพิสูจน์ทราบได้ยากว่า ต้นกำเนิดของสินค้ามันอยู่ที่ไหน และการซื้อสินค้าออนไลน์ มันกำกับว่าซื้อสินค้าอะไรได้ค่อนข้างลำบาก สำหรับเรื่องทองก็ซื้อไม่ได้ 

สำหรับประเด็น “Super App” นายจุลพันธ์ เผยว่า ใช้เวลานาน ตอนนี้เราพูดคุยและเตรียมการกับหน่วยงานแล้ว เป็นโครงการที่ดำเนินการอยู่เบื้องต้น แต่ฟังก์ชันที่เราทำอยู่คือการเชื่อมระบบกับเครือข่ายรัฐบาล แล้วสร้างให้มันลิงก์กับสถาบันการเงินเอกชน ถ้าเขามีความประสงค์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความสะดวกมากที่สุด

เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในการทำดิจิทัลวอลเล็ต คิดว่าผลที่ได้จะยังคงเหมือนเดิมไหม นายจุลพันธ์ ยังยืนยันว่าเศรษฐกิจไม่ดี จะใช้คำว่าวิกฤติหรือไม่ก็ตาม แต่ลองไปคุยกับพี่น้องต่างจังหวัด จะรู้ว่าไม่ค่อยดี blockquote{ border:1px solid #d3d3d3; padding: 5px; }

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล