ReadyPlanet.com


นายกฯ ตั้ง คกก.เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา


 นายกฯ ลงนามคำสั่ง สมช. ตั้ง “ปานปรีย์” เป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา อ่านต่อที่นี่ www.tigaswebs.com นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ลงนามคำสั่ง สมช.ที่ 1/2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา โดยมีเนื้อหาในหนังสือคำสั่ง ว่า


โดยที่ปัจจุบันสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมามีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อไทยในหลายมิติ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ การสู้รบตามแนวชายแดน และการค้าชายแดนหยุดชะงัก อันกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินการทางการทูต ความมั่นคง เศรษฐกิจ และการสื่อสารต่อสาธารณะ รวมถึงการบริหารสถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้อย่างเป็นรูปธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ .. 2559 นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังนี้


1. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกรรมการ


 

2. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองประธานกรรมการ


 



 


ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม, ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, อธิบดีกรมสารนิเทศ, อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ, อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ รวมถึงให้ข้าราชการ สมช. ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ


สำหรับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้แก่ ให้ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ในภาพรวมที่เกี่ยวข้องกับเมียนมาที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทั้งในมิติการต่างประเทศ มิติการค้าและเศรษฐกิจชายแดน มิติความมั่นคง รวมทั้งบทบาทและท่าทีของต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง


กลั่นกรอง ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการ หรือแนวทางการบูรณาการและประสานงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์แห่งชาติในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์ในเมียนมา โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา รวมถึงการดำเนินการทางการทูตเชิงรุกที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนให้เกิดสันติภาพในเมียนมา ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านการต่างประเทศ นโยบายด้านเศรษฐกิจ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งยุทธศาสตร์หรือแผนที่เกี่ยวข้อง ต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี



ผู้ตั้งกระทู้ จอบอ :: วันที่ลงประกาศ 2024-04-22 23:49:46


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.